วิธีการูเเลหม้อน้ำรถยนต์
วิธีการูเเลหม้อน้ำรถยนต์
จาการ์ตา – เชฟโรเลต เผยโฉมเอ็มพีวีรุ่นใหม่ “สปิน” ใน งาน“อินโดนีเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012” พร้อมเตรียมเปิดขายในไทยปีหน้า หลังอินโดนีเซียขึ้นไลน์ผลิตในไตรมาสแรกเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ภายในงานยังมี “อาวีโอ”และ”เทรลเบลเซอร์” รุ่นใหม่ ยืนอวดโฉมให้แก่ชาวอิเหนาด้วย
มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในประธานเปิดงานอินโดนีเซีย มอเตอร์โชว์ 2012 กล่าวว่า “การที่เชฟโรเลต เข้าร่วมงานแสดงยานยนต์ระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเชฟโรเลต ในการก้าวเป็นแบรนด์รถยนต์ในใจของลูกค้าชาวอินโดนีเซีย และเราจะเดินหน้านำเสนอรถใหม่หลากหลายรุ่นและการบริการลูกค้าอันยอดเยี่ยมให้แก่คอรถยนต์ชาวอินโดนีเซียต่อไป”
ภายในงานนอกจากเชฟโรเลต อาวีโอและ เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ที่นำมาจัดแสดงแล้ว เชฟโรเลต ยังใช้เวทีนี้เปิดตัวรถเอนกประสงค์รุ่นใหม่ “สปิน” ซึ่งรถรุ่นนี้ทางบริษัทฯคาดว่าจะรองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการในการเดินทางของตลาดอินโดนีเซียได้อย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเติมสายผลิตภัณฑ์อันหลากหลายและครอบคลุมของเชฟโรเลต ต่อยอดจากรุ่นเดิมอย่างครูซ สปาร์ก แคปติวา รุ่นดีเซลและเบนซิน โคโลราโด (ดับเบิลแค็บ) และออร์แลนโด อีกด้วย
เชฟโรเลต สปิน ได้รับการพัฒนาและออกแบบโดยศูนย์ออกแบบและพัฒนาระบบวิศวกรรมของจีเอ็ม ในเมืองเซา เซตาโน โด ซูล นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล โดยได้รับฟังความคิดเห็นของลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญชาวอินโดนีเซียซึ่งมีความสำคัญยิ่ง สปิน ยังได้รับการทดสอบอย่างเข้มข้นในสี่ทวีปทั่วโลก
เส้นสายที่ทรงพลังของสปิน ทำให้ตัวรถมีรูปลักษณ์อันโดดเด่น ดึงดูดสายตาด้วยกระจังหน้าแยกส่วนเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต พร้อมด้วยกรอบไฟหน้าทรงเรียวเน้นความโฉบเฉี่ยว เติมความดุดันด้วยเส้นสายด้านข้างที่คมคายและช่วงไหล่ที่ค่อนข้างสูง ตัวถังของสปินได้รับการออกแบบเพื่อความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์
สปิน มีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,620 มม. ในห้องโดยสารรองรับผู้โดยสาร 5 และ 7 ที่นั่งพร้อมเนื้อที่บรรทุกสัมภาระสูงถึง 1,668 ลิตร ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 53 ลิตร เบาะที่นั่งถูกออกแบบให้คล้ายกับที่นั่งในโรงภาพยนตร์เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งและเพิ่มเนื้อที่ความกว้างขวางสูงสุด เบาะที่นั่งปรับเปลี่ยนได้ถึง 23 รูปแบบ ขณะเดียวกัน แผงควบคุมและช่องเก็บของจุกจิกกว่า 32 แห่งทั่วทั้งห้องโดยสารมีดีไซน์ที่คำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ระดับโลก
ห้องโดยสารของสปิน ยังโดดเด่นในเรื่องความเงียบและการตกแต่งอันหรูหรา แผงคอนโซลทูโทนแบบมีประกาย (jewel effect) ด้วยการใช้สีเงินและโครเมียมตกแต่งบริเวณที่เปิดประตู พวงมาลัย แผงเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ หัวเกียร์ เบรกมือ และช่องแอร์ ขณะที่มาตรวัดใช้ฟอนต์ที่ชัดเจนและสีฟ้าไอซ์บลูอันโดดเด่นในแบบของเชฟโรเลต โดยมาตรวัดรอบเป็นแบบเข็มอนาล็อกและความเร็วเป็นแบบตัวเลขดิจิตอล สปินยังมีระบบเชื่อมต่อ USB อีกด้วย
สมรรถนะและเสถียรภาพการขับขี่ยังถือเป็นจุดแข็งของสปิน โดยได้รับการปรับแต่งช่วงล่างอย่างพิถีพิถัน ตำแหน่งเบาะที่นั่งที่ค่อนข้างสูงเสริมให้ผู้ขับขี่มีความรู้สึกปลอดภัยทุกเส้นทางเพราะสามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจน ขณะเดียวกัน ระบบพวงมาลัยให้การควบคุมอย่างเต็มประสิทธิภาพในย่านความเร็วสูง สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคของสปินที่จะจำหน่ายในตลาดอินโดนีเซียจะได้รับการประกาศอีกครั้งในช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
สปิน จะขึ้นสายการผลิตที่ศูนย์การผลิตจีเอ็ม เบกาซี ในช่วงไตรมาสที่ 1 ซึ่งจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 40,000 คันต่อปี จีเอ็ม และอินโดนีเซีย ยังจะส่งออกสปินสู่ตลาดใกล้เคียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งประเทศไทยและฟิลิปปินส์ในช่วงไตรมาสที่ 2 รวมถึงตลาดประเทศอื่นๆในอนาคต ปัจจุบันเรามีผู้แทนจำหน่ายเชฟโรเลต 34 แห่งในอินโดนีเซียและจะขยายเพิ่มเป็น 36 แห่งในอีกไม่นานนี้
“เชฟโรเลต สปิน ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีเป้าหมายเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เชฟโรเลต ในภูมิภาคนี้ ด้วยการออกแบบอันโดดเด่น ยืดหยุ่นและปราดเปรียวจะทำให้สปิน เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของเชฟโรเลต ได้รับความนิยมในอีกหลายปีข้างหน้า” มาร์ติน แอพเฟล กล่าว
ที่มา http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000115676
Mini Paceman สเปค ราคา
ดูเหมือนว่ามินิจะเดินตามนโยบายในการพัฒนาบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งเป็นบริษัทแม่มาแบบเด๊ะๆ โดยในตลาดเอสยูวีนอกจากจะมีตัวถังแบบ 5 ประตูทรงกล่องที่เป็นมาตรฐานแล้ว จะต้องมีเวอร์ชันสปอร์ตตามออกมาขายด้วย ส่วนจะสปอร์ตในแบบ 5 ประตูแต่ออกแบบประตูบานท้ายให้เพรียวแล้วบอกว่าป็นคูเป้ หรือว่าจะเป็นแบบ 3 ประตูแท้ๆ อันนี้ก็แล้วแต่เหตุผลของคนที่วางคอนเซ็ปต์
และเรื่องตรงนี้ถูกสะท้อนออกมากับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของมินิที่ใช้ชื่อว่าเพซแมน (Paceman) ซึ่งเมื่อดูทันทีก็สามารถรู้ทันใดเลยว่า นี่มันแนวคิด X5 กับ X6 (และก็กำลังจะมี X3 กับ X4) ชัดๆ เพียงแต่ไม่ได้มาแบบเหมือนกันในทุกสัดส่วน เพราะจะว่าไปแล้วเพซแมนก็คือรุ่น 3 ประตูของคันทรี่แมน (Countryman) เพียงแต่จะเรียกให้มันต่างกันไปใย ถ้าไม่ใช่เพราะการมองหาช่องทางในการเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์
เพราะระหว่างการบอกแค่เป็นตัวถังใหม่ของคลับแมนกับเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ คงไม่ต้องเดาว่าอย่างไหนคนจะให้ความสนใจมากกว่ากัน
เพซแมนถือเป็นการพัฒนาและแชร์รายระเอียดทางวิศวกรรม ซึ่งก็รวมถึงรายละเอียดของรูปลักษณ์ภายนอกมาจากรุ่นคันทรีแมนจนน่าจะเรียกว่าเป็นรถยนต์รุ่นเดียวกัน เพียงแต่ว่ามาในแบบ 3 ประตู และสิ่งที่ชวนสงสัยต่อเนื่องคือ ในภาพจำนวนร่วม 100 ภาพที่แจกนักข่าวในอินเตอร์เน็ตไม่มีภาพของรายละเอียดชุดแผงหน้าปัดแนบมาให้ด้วย ซึ่งถือว่าผิดวิสัย ทั้งที่รายละเอียดภายในห้องโดยสารส่วนอื่นๆ ก็มีแนบมาด้วย
ก็น่าจะอนุมานได้ว่าเป็นชุดเดียวกับของคันทรีแมน เพราะเมื่อดูจากรายละเอียดของแผงประตู การจัดวางแผงคอนโซลที่ยาวต่อเนื่องจากด้านหน้ามาจนถึงด้านหลัง และคั่นเบาะหลังให้เป็น 2 ที่นั่งแยกซ้าย-ขวาเหมือนกัน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากับความจุแบบพอประมาณ ถ้ายังไม่มีการพับเบาะหลังลงจะมีตัวเลขอยู่ที่ 330 ลิตร แต่จะเพิ่มเป็น 1,080 ลิตร ซึ่งก็สูสีกับรุ่นคันทรี่แมนซึ่งอยู่ในระดับ 350/1,170 มิลลิเมตร
ขณะที่ตัวถังมีความยาว 4,109 มิลลิเมตร ใหญ่กว่ามินิตัวถังแฮทช์แบ็กธรรมดา แต่สั้นกว่ารุ่นคันทรีแมนอยู่ 24 มิลลิเมตร ส่วนความสูงก็เตี้ยกว่าอยู่ประมาณ 31 มิลลิเมตร และพื้นที่ว่างใต้ท้องรถมีน้อยกว่าคันทรี่แมนอยู่ 10 มิลลิเมตรนั้นเป็นเพราะว่าทางวิศวกรของมินิจัดการปรับเซ็ตระบบช่วงล่างให้เน้นความสปอร์ตในการขับขี่มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นบุคลิกที่แตกต่างจากรุ่นคันทรีแมน
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีอยู่ 4 รุ่นเหมือนกับมินิตัวถังอื่นๆ คือ เริ่มจากรุ่นธรรมดาที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,600 ซีซี 119 แรงม้า ซึ่งมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 10.4 วินาที ตามด้วยรุ่น S ติดเทอร์โบขยับความแรงขึ้นมาเป็น 181 แรงม้า ใช้เวลา 7.5 วินาทีในการทำอัตราเร่ง
ส่วนขุมพลังเทอร์โบดีเซลก็มีทั้งรุ่นประหยัด 1,600 ซีซี 110 แรงม้า และตัวแรงในรหัส SD 2,000 ซีซี 141 แรงม้า ซึ่งทั้งคู่มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 10.8 และ 9.2 วินาทีตามลำดับ เช่นเดียวกับความประหยัดที่มั่นใจได้ โดยในรุ่นแรกมีตัวเลขอยู่ที่ 22.7 กิโลเมตร/ลิตร และรุ่นหลังอยู่ในระดับ 21.7 กิโลเมตร/ลิตร
ส่วนระบบส่งกำลังมีเลือกทั้งแบบธรรมดา หรืออัตโนมัติ ที่มีจำนวนจังหวะเท่ากันที่ 6 จังหวะ โดยที่ระบบขับเคลื่อนก็มีทั้งแบบล้อหน้า หรือแบบ 4 ล้อในรหัส ALL-4
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2012 ปลายเดือนกันยายนนี้ และจากนั้นจะเริ่มทำตลาดในยุโรปทันที ส่วนราคายังไม่ได้แย้มออกมาในตอนนี้
บทความจาก ผู้จัดการ ครับ
อ่านต่อได้ที่ http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000114418
วันนี้ (18 ก.ย.) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “ซีอาร์-วี ใหม่” ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น แถมความอเนกประสงค์สไตล์เอสยูวี 5 ที่นั่ง ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 และ 2.4 ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 สนนราคาเริ่มต้น 1.164 ล้านบาท
สำหรับ ซีอาร์-วี ใหม่ เป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (Sport Utility Vehicle – SUV) ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคัน จากด้านหน้าจรดด้านท้าย เน้นดีไซน์แข็งแกร่ง แต่หรูหรามีระดับ ครบครันด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ ทั้งยังให้ความรู้สึกสะดวกสบายในการขับขี่เหมือนรถซีดาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับพลังงานทางเลือก E85 เพิ่มความประหยัดทุกการใช้งานด้วยระบบ Eco Assist และ Econ Mode
ทั้งนี้ การพัฒนารถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยังใช้แนวคิดหลัก Man Maximum, Machine Minimum ที่เน้นให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่ให้อรรถประโยชน์และความสะดวกสบาย พร้อมความโดดเด่นลงตัวด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ที่เพิ่มความแข็งแกร่ง หรูหรา สง่างาม แต่ยังคงความโฉบเฉี่ยวในแบบรถสปอร์ต อเนกประสงค์ โครงสร้างตัวรถมีการยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวรถแบบ Uni-body ที่พัฒนาเชิงวิศวกรรมแบบใหม่ทั้งหมด
ขณะที่ดีไซน์ภายนอกตัวรถโดยรวมเน้นอารมณ์สปอร์ต แข็งแกร่ง และดุดัน มีการดีไซน์ไฟหน้าใหม่แบบโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ ด้วยกระจังหน้าใหม่แบบ 3 ชั้น พร้อมคิ้วโครเมียม ไฟตัดหมอกรูปวงรี รวมไปถึงกระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟเบรกแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ตั้งขนานกับแนวเสาหลังคา ตลอดจนการใช้เสาอากาศแบบครีบ และล้ออัลลอย 5 ก้านขนาดใหญ่
ส่วนการออกแบบภายใน เน้นความพรีเมี่ยมมีระดับ ห้องโดยสารเน้นความโปร่งและกว้างขวาง ครบครันด้วยประโยชน์ใช้สอย เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และเทคโนโลยีล้ำสมัย ลดระดับของเสียงรบกวนให้ความรู้สึกสะดวกสบายนุ่มนวลเหมือนขับรถซีดานตลอดการเดินทาง และอีกหนึ่งจุดเด่นของ ซีอาร์-วี ใหม่อยู่ที่การออกแบบการปรับพนักพิงของเบาะที่นั่งด้านหลังแบบใหม่ ให้สามารถแยกพับลงได้แบบ 60:40 จนเกือบแบนราบเป็นระนาบเดียวกับพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างง่ายดายเพียงดึงคันโยกหรือสายด้านข้างเพียงครั้งเดียว (One Motion)
นอกจากนี้ หน้าจอแสดงข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID แผงมาตรวัดแบบเรืองแสง ระบบเนวิเกเตอร์พร้อมเครื่องเล่น DVD และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth ผสานระบบเครื่องเสียงที่มีโหมดการปรับความดังของเพลงอัตโนมัติตามความเร็วของรถยนต์ (Speed-Sensitive Volume Control: SVC) รวมไปถึงระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ One Push Ignition System และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ Honda Smart Key System และยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist / ECON Mode ทั้งยังสามารถรองรับการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเอทานอล E85
ด้านระบบความปลอดภัย มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON ระบบควบคุมการทรงตัว VSA พร้อมระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist ระบบถุงลมคู่หน้าปกป้องการชนทางด้านหน้า ระบบถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับเบาะคู่หน้า พร้อมระบบตรวจสอบตำแหน่งท่านั่งของผู้โดยสารด้านหน้า (Occupant Position Detection System: OPDS) และกุญแจรีโมทนิรภัย Immobilizer
โดยฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ วางเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร 155 แรงม้า และ DOHC i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร 170 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมแบ่งการขายเป็น 4 รุ่นย่อย คือ รุ่น 2.0 S (ขับเคลื่อน 2 ล้อ) ราคา 1,164,000 บาท รุ่น 2.0 E (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) ราคา 1,274,000 บาท รุ่น 2.4 EL 2WD (ขับเคลื่อน 2 ล้อ) ราคา 1,444,000 บาท รุ่น 2.4 EL (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) ราคา 1,524,000 บาท
สำหรับซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ 2 สีใหม่ สีน้ำเงินทไวไลท์ (เมทัลลิก) สีขาวออร์คิด (มุก) (ราคาเพิ่ม 12,000 บาท) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโพลิชเมทัล (เมทัลลิก) และสีน้ำตาลเออเบิร์นไททาเนียม (เมทัลลิก)
โดยลูกค้าที่สนใจสามารถแวะชมรถหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th/crv
ที่มา ผู้จัดการ
©2012-2013 รถสวยๆรุ่นใหม่ล่าสุด | Powered by WordPress with Easel | Subscribe: RSS | Back to Top ↑
Recent Comments