ปัญหาเกี่ยวกับหัวเทียนรถยนต์

เริ่มแรกขอเริ่มที่เบอร์หัวเทียนกันก่อนนะครับ หัวเทียนในแต่ละยี่ห้อนั้น มันบอกเบอร์ไม่ได้ (เพราะมันไม่มีปาก!) ตัวเลขแต่ละแบรนด์ก็ไม่เหมือนกัน ถ้าจะเทียบกันจริง ๆ คงต้องใช้ตารางเทียบว่าแบรนด์นี้ เบอร์นี้ ตรงกับรุ่นอะไร ถึงจะชัวร์ และอย่างที่ใช้กันประจำ ๆ พูดกันติดปากก็ไม่พ้น “N…K” หัวเทียนทั่ว ๆ ไปที่เรียกว่า หัวเทียนร้อน จะเป็นเบอร์ต่ำเสมอ ส่วนหัวเทียนเย็นจะเป็นเบอร์สูง ว่าแต่….ร้อนกับเย็นมันต่างกันยังไง เดี๋ยวจะอภิปรายให้ฟัง

หัวเทียนร้อน
“หัวเทียนร้อนเนี่ย….ตัวมันเองจะระบายความร้อนออกได้ช้า” เมื่อเราใช้งานจริง ในห้องเผาไหม้มันมีความร้อนจากการจุดระเบิด เมื่อหัวเทียนรับความร้อนนั้นมา จะส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมที่หัวเทียนอยู่อย่างนั้น

หัวเทียนเย็น
“หัวเทียนเย็นก็คือ…ตัวมันสามารถถ่ายเทความร้อนออกไปได้เร็วกว่าหัวเทียน ร้อน” แต่ใช่ว่าจะมันจะหายร้อนเลยนะ อย่างนั้นไม่ใช่ จริง ๆ แล้ว หัวเทียนจะมีความร้อนสะสมอยู่ระดับนึงเพื่อให้แห้งตลอดเวลา เป็นทั้งหัวเทียนร้อนและหัวเทียนเย็น เพียงแต่ว่าหัวเทียนเย็นจะถ่ายเทความร้อนได้เร็วกว่าเท่านั้นเอง

มันก็เหมือนกับเหล็กเผาไฟนั่นแหละ เมื่อโดนน้ำมันก็จะดัง “ฟู่” ควันฉุยแล้วก็หายไป แต่เหล็กนั้นก็ยังร้อนอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเงื่อนไขมันเป็นอย่างนี้นะ “ไอดี” มันเป็น “ความชื้น” เมื่อความชื้นพ่นมาโดนอะไรสักอย่าง มันก็จะทำให้ของชิ้นนั้นเปียก ดังนั้นถ้าเราเปรียบของชิ้นนั้นเป็นหัวเทียน ถ้ามันเปียก ก็จะส่งผลให้ “หัวเทียนบอด”

ผมลองยกตัวอย่างให้ดูนะ รถที่วิ่งใช้งานในเมืองทุกวัน วิ่งช้าตลอดเวลา
คลานกระดึ๊บๆไปเรื่อย “ชิว ชิว” รถจำพวกนี้อุณหภูมิในห้องเผาไหม้จะต่ำมากเลย ซึ่งถ้าในสถานการณ์นี้ควรเลือกใช้ “หัวเทียนร้อน” เพราะว่าเราต้องการระบายความร้อนช้าๆ เพื่อเก็บความร้อนสะสมไว้ ไม่ให้ “หัวเทียนบอด..!” ไงจ๊ะ

กลับกัน ถ้าเป็นรถที่ใช้ความเร็วสูงมาก ๆ ถ้าเราใช้หัวเทียนร้อน มันจะทำให้ระบายความร้อนไม่ทัน อาจสร้างความ “ชิ…หาย” ได้ ต่าง ๆ นานา เช่น หัวเทียนละลาย กระเบื้องแตก และ เกิดอาการชิงจุด ก็เป็นได้ “คือว่าหัวเทียนมันร้อนเกินไป มันก็เหมือนโละหะเผาไฟร้อนแดง เมื่อมีไอดีเข้ามา มันเป็นเชื้อเพลิงพร้อมที่จะจุดระเบิด พอมากระทบตัวหัวเทียนปุ๊บ ซึ่งมันยังไม่ทันถึงจังหวะจุดระเบิด มันก็จุดระเบิดทันทีจากความร้อนสะสมของหัวเทียน” ซึ่งรถที่ใช้ความเร็วตลอดควรเลือกใช้ “หัวเทียนเย็น” เพื่อการระบายความร้อนจะดีกว่า

แต่ว่า…มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานให้ถูกประเภท (เฉพาะกิจ) ด้วย อย่าง รถแต่งเครื่องซิ่งสุดประเทศ..! มันจะมีความร้อนสูงมากกว่าเครื่องยนต์สแตนดาร์ดทั่ว ๆ ไป และส่วนมากมักเป็นเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศ (TURBO) ซึ่งเครื่องยนต์ประเภทนี้เป็นเครื่อง “Over Lap” มาก จุดระเบิดไม่ค่อยดีในรอบต่ำ หัวเทียนที่ใช้จึงเป็นหัวเทียนเย็นเสมอ

แต่ถ้าเรานำเครื่องซิ่งวิ่งผิดที่ (ในเมือง) อันนี้ก็ต้องจบข่าว “ผิดแผน” กันไป เพราะเครื่องประเภทนี้มันต้อง “เหนี่ยว” อย่างเดียว แต่ถ้ามาวิ่งผิดที่ รับรองวิ่งไม่ได้เลย เพราะเครื่องซิ่งเหล่านี้ ส่วนมากรอบต่ำมันวิ่ง “สับปะรดหมาไม่แด…กอยู่แล้ว” ยิ่งเจอรถติดในเมืองอีก รับรองแม่เจ้า….ไม่รอด “บอดสนิท” ทุกราย ซึ่งถ้าจะมาใช้ในเมืองจริง ๆ คงต้องเปลี่ยนเป็นหัวเทียนร้อนแทน แต่ถ้าดันทุรังมีหวัง “หลับ” ทุกราย

หลายคนอาจจะเคยเห็นหัวเทียนแบบไม่มีเขี้ยวหรือแบบมีหลายเขี้ยวซึ่งแต่ละแบบ มีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียต่างกันคับ โดยประเภทหัวเทียนมีทั้งหมด(เท่าที่ผมรู้นะคับ)8ชนิดนะคับได้แก่
1.หัวเทียน แพล้ตตินั่ม
2.หัวเทียนรถแข่ง
3.หัวทียนปลายตัด
4.หัวเทียนจมูกยาว
5.หัวเทียนไร้เขี้ยว
6.หัวเทียนมีหลายเขี้ยว
7.หัวเทียนเขี้ยวทองแดง
8.หัวเทียนชนิดเร่งประกายไฟ คร๊าบ

ข้อดีข้อเสีย

1.หัวเทียนแพล้ตตินั่ม มีข้อดีตรงที่ทนทานต่อการสึกกร่อน ทนทานต่อความร้อนสูงและช่วยส่งประกายไฟได้ดีคับ ส่วนข้อเสียคือราคาแพงคับ

2.หัว เทียนรถแข่ง มีข้อดีตรงที่เหมาะสำหรับการขับในรอบสูง (เพราะหัวเทียนชนิดนี้เย็นมาก) ข้อเสียคือไม่เหมาะแก่การใช้งานในเมืองคับ(เพราะเขม่าจะจับมาก)

3.หัวเทียนปลายตัด มีข้อดีตรงที่ หัวเทียนชนิดนี้ออกแบบให้อนุภาคของสารและเขม่าอื่นๆปลิ่วว่อนอยู่ในห้องเผาไหม้ม่เกาะเขี้ยวหัวเทียน

4.หัว เทียนจมูกยาว มีข้อดีตรงที่สามรถเพิ่มความร้อนได้อย่างรวดเร็วทำให้เขม่าไม่เกาะแต่ขณะใช้ รอบสูงก็จะไม่ร้อนเกินไปเพราะมีไอดีจากจังหวะดูดมาพัดเอาความร้อนไปและมีประ สิทธ์ภาพพอๆกันกับหัวเทียนแพล้ตตินั่มส่วน ข้อเสียคือหัวเทียนชนิดนี้ใช้ไม่ได้กับเครื่อง Side Vale คับ

5.หัวเทียนไร้เขี้ยว มีข้อดีตรงที่ทนทานต่อประกายไฟแรงๆคับ

6.หวั เทียนที่มีหลายเขี้ยว มีข้อเสียตรงที่หัวเทียนชนิดนี้ออกแบบมาสำหรับเครื่องบินซึ่งทำงานด้วยความ เร็วคงที่ซึ่งถ้านำมาใช้กับรถในเมืองเขม่าจะเกาะง่ายและทำความสะอาดยาก
ขึ้นคับ

7.หัวเทียนเขี้ยวทองแดง มีข้อดีตรงที่ ถ่ายเทความร้อนได้ไวกว่าโลหะอย่างอื่นเหมาะสำหรับรถความเร็วสูงและบรรทุกหนักคับ

8.หัวเทียนชนิดเร่งประกายไฟ มีข้อดีตรงที่สามารถจุดประกายไฟขณะที่มีเขม่าจับและเหมาะกับรถที่ใช้งานในเมืองหนาวด้วยคับ

ขอบคุณบทความจาก http://www.oknation.net/blog/wish2782/2010/10/18/entry-1